Thursday, August 13, 2009

ปัจจัยในการเป็นนักพูด

1. องค์ประกอบในการส่งเสริมการพูด
1. บุคลิกลักษณะ
2. ภาษากาย
3. น้ำเสียง
4. ภาษาพูด
บริติชเคาน์ซิล กรุงเทพฯ ได้สรุปสิ่งที่ผู้พึงกระทำไว้ในเอกสารอบรมเรื่องการพูดต่อที่ชุมนุมชน (2002) ดังนี้



ควรทำ

- ใช้ประโยคง่าย ๆ ที่เป็นคำพูดของผู้พูด พูดกับผู้ฟังโดยตรง (direct sentence)
- ใช้กริยาที่บอกการกระทำ (active verb เพราะเข้าใจง่าย
- ใช้สรรพนาม I, you, we ตามความเหมาะสมเพื่อให้ดูเป็นกันเองกับผู้ฟัง
- ใช้คำคุณศัพท์ประกอบนามเพื่อบอกลักษณะให้ชัดเจน
- ฝึกซ้อมพูด เพื่อมิให้ออกเสียงผิดหรือตะกุกตะกัก

ไม่ควรทำ

- ใช้ศัพท์ทางวิชาการหรือศัพท์เฉพาะซึ่งยากแก่การเข้าใจ
- พูดไม่เข้าประเด็น
- พูดละเอียดหรือกว้างเกินไป
- เขียนบทพูดอย่างละเอียดทุกคำพูด
- พูดยกย่องตนเองหรือดูถูกผู้ฟัง
- เลียนแบบผู้อื่น ทั้งน้ำเสียงและกิริยาท่าทาง

5. วิธีพูด
6. อารมณ์ขัน
7. สื่อและอุปกรณ์โสตทัศน์

Honorable Deputy Prime Minister His Excellency Mr. (ชื่อ นามสกุล)

Her Excellency Mrs. (ชื่อ นามสกุล), Minister to the Prime Minister’s Office,

His Excellency Mr. (ชื่อ นามสกุล), Executive Secretary of ESCAP,

Mr. (ชื่อ นามสกุล), Governor of the Tourism Authority of Thailand.

Excellencise,

Ladies and Gentlemen,

You Royal Highness, the Duke of Kent,

The Honorable Ambassador of the United Kingdom to the Kingdom of Thailand,

The President of Mahidol University,

Distinguished Gests, Ladies and Gentlemen,

Mr. (ชื่อ นามสกุล) ASIAN Representative, Distinguished Members of the Delegation, Ladies and Gentlemen.

Your Honorable, the Lord Mayor of Los Angeles, Ladies and Gentlemen.

Professor (ชื่อ นามสกุล) President of AIC, Excellencies, Distinguished Guests, Members of the 57th Graduating Class Ladies and Gentlemen.


คำพูดที่ใช้เรียกขานบุคคลตามหน้าที่ / ตำแหน่ง

หน้าที่ / ตำแหน่ง = คำเรียกขาน

The Audience ผู้ฟัง
Participants ผู้เข้าร่วมประชุม/สัมมนา
Delegate (s) ผู้แทนองค์กร
Chairperson/Chair / Mr. Chairman/Madam Chairwoman ประธานในพิธี
The Lecturer/Speaker ผู้บรรยาย/องค์ปาฐก
The Panelist (s) ผู้อภิปรายในการอภิปรายกลุ่ม
The Moderator ผู้ดำเนินรายการในการอภิปราย
Mr.Mayor/Madam MayorYour Honorable, The Lord Mayor of (ชื่อเมือง) นายกเทศมนตรี
Mr. President/Madam President ประธาน/อธิการบดี
Mr. Dean/ Madam Dean คณบดี
My Lord ผู้พิพากษาศาลสูง
Judge/Mr. Justice ผู้พิพากษา
Your Excellency / Excellencies รัฐมนตรี
Your Excellency / Your Honorable เอกอัครราชทูต
Mr. Governor/ Your Excellency ผู้ว่าราชการจังหวัด
Distinguished Guests แขกผู้มีเกียรติ
Ladies and Gentlemen สุภาพบุรุษและสุภาพสตรี

หมายเหตุ 1. ใช้ Your นำหน้าคำเรียกขานที่แสดงความเคารพคือ Excellency หรือ Honorable เมื่อพูดกับผู้นั้นโดยตรง และใช้ His (ชาย) / Her (หญิง) นำหน้าคำเรียกขานดังกล่าวเมื่อเอ่ยถึงบุคลผู้นั้นในฐานะบุคคลที่สาม
2. จะไม่ใส่ Your/His/Her นำหน้า Excellency / Honorable ก็ได้
3. จะใช้ Honorable / Excellency ควบกับตำแหน่งหรือชื่อนามสกุลของบุคคลนั้นก็ได้ เช่น
The Honorable Miss Eva kraut
Your/His Excellency the Minister of Finance


โครงเรื่องและขั้นตอนในการพูด

โครงเรื่อง
ใช้เวลาพูด
ขั้นตอน
1. บทนำ
บอกผู้ฟังว่าจะพูดอะไร
(Tell them what you are going to tell them)
10%
กล่าวคำปฏิสันถารหรือ
ทักทายผู้ฟัง (greeting)

อารัมภบท (Introduction)

บอกหัวข้อต่าง ๆ ที่จะพูด (outline)

บอกช่วงเวลาที่ผู้ฟังจะถาม (questions)

2. เนื้อเรื่อง
พูดเนื้อหา
Tell them
85%
พูดเนื้อเรื่องทีละหัวข้อ (main part)

3. บทสรุป
บอกผู้ฟังอีกครั้งว่าได้พูดอะไรไปแล้ว
Tell them what you have told.
5%
พูดทบทวนเนื้อเรื่องโดยย่อ (summary)

สรุป (conclusion)

กล่าวคำลงท้าย (ending)


วิธีเชื่อมโยงขั้นตอนการพูดให้ต่อเนื่องด้วยภาษาอังกฤษง่ายๆ(Signposting)

หน้าที่ / ความหมาย และถ้อยคำที่เชื่อมโยง
1. บอกการเริ่มต้นพูด
(บอกชื่อเรื่อง)
- I’d like to talk to you today about______
- I’m going to talk about_______
- My talk today will be in______
2. บอกวัตถุประสงค์ในการพูด
- The aim of my talk is _____
- My purpose today is______
3. บอกการแบ่งหัวข้อ
- I’d like to break my talk into the following topics. First. I’ll talk about_____ Next, I’ll come to _____. After that, I deal with _____ Lastly, I’ll focus on _____
- I’ll divide my talk into ____ parts. Frist of all, I’ll give you an overview of _____. Then I’ll move on to_____. Finally, I’ll focus on _____ before concluding with some recommendations.
- To start with, I’ll describe______ Then I’ll mention____. After that I’ll consider_____. Finally, I’ll summarize my presentation.
4. บอกช่วงเวลาที่ผู้ฟังจะถามได้
- Please feel free to interrupt me if you have any questions. Otherwise, there’ll be time for discussion at the end.
- I’ll try to answer any of your questions after the presentation.
- I would be happy to answer your questions after the discussion.
5. เริ่มพูดทีละหัวข้อตามลำดับ
- Let’s start with the first topic______
6. จบหัวข้อย่อย
- Well, I’ve told you about____
- That’s all I have to say about_____
- To summarize this point, I’ve mentioned______



หน้าที่ / ความหมาย และ ถ้อยคำที่เชื่อมโยง
7. เริ่มหัวข้อใหม่
- Now, I’ll move on to _____
- Next _____
- I’d like now to discuss about_____
- Let’s look now at _____- This leads to the next point
8. ขอย้อนกลับไปหรือให้ฟังต่อไป
- As I mentioned earlier about_____
- We’ll come back to this point later.
- I’ll talk about this in the next part.
9. ตรวจสอบความเข้าใจของผู้ฟัง
- Is that clear?
- Are there any questions?
- Does that answer your questions?
10. ให้ดูสื่อประกอบการพูด
- This transparency shows____- If you look at this graph, you can see____
- I’d like to draw your attention to this chart
- As you can see from this graph,______
11. อ้างอิงสิ่งที่ทุกคนรู้
- As you know____- I’m sure you’re aware of ____
12. เน้นจุดเด่น
- particularly
- in particular
- especially
13. จะเปลี่ยนเรื่องพูดหรือแสดงการเชื่อมต่อระหว่างข้อมูลเก่ากับข้อมูลใหม่
- Well/By the way / Now
- I’d like now to move on to_____
- Turning now to _____
- Let’s consider_____
- Let’s move to _____


หน้าที่ / ความหมาย และ ถ้อยคำที่เชื่อมโยง
14. อ้างอิงไปถึงคำพูดของผู้ฟัง
- You said that_____
- You mentioned____
- Could I go back to the point you made about____?
15. - เชิญให้ผู้ฟังถาม
- ผู้ฟังขอถาม
- Are there any questions from the floor?
- Can I interrupt you at this point?
Sure (ตอบอนุญาต)
- Do you mind telling me about____?
Of course not (เชิญถามได้เลย)
16. แสดงการรับรู้และสนใจคำถามที่ผู้ฟังถาม
- That’s interesting.
- That’s a good question.
- I’m glad you raised that point.
17. ขอให้ถามใหม่เพราะไม่เข้าใจ
- I didn’t quite catch that.
- Could you go over your question again?
- Could you expand on that question?
18. บ่ายเบี่ยงยังไม่ตอบคำถามของผู้ฟัง
- Can I get back to you on that later?
- I’ll come back to this question later.
- I’m afraid I don’t know the answer.
- I’m sorry, that information is confidential.
- Can we discuss about it after this session?
- I don’t have any information at present.
- I’m afraid that’s not my field.
19. แสดงความไม่เห็นด้วย
- I’m afraid I don’t agree with your point.
- I think it isn’t quite right.
- Yes, but_______
20. เสนอแนะ
- Why don’t we____- I’d like to make a suggestion.
- I recommend that_____


หน้าที่ / ความหมาย และถ้อยคำที่เชื่อมโยง
21. ย่อเรื่อง
- To sum up.____
- I’d like to sum up now.
- Let me summarize what I’ve said
- Finally, let me remind you of some of the main points.
22. สรุป
- In conclusion, my recommendations are_____
- I would propose the following strategies.
23. ขอบคุณผู้ฟัง
- Thank you for your attention.
- May I thank you all for being such an attentive audience.
24. จบการพูด
- So, that brings me to the end of my presentation.
- That completes my talk.

การเชื่อมข้อความระหว่างประโยคหรือภายในประโยค
คำหรือวลีบางประเภทสามารถนำมาเชื่อมโยงเนื้อหาให้ต่อเนื่องสัมพันธ์กันได้ดังนี้
1. ใช้คำสันธาน (conjunction) เชื่อมประโยค 2 ประโยคเข้าด้วยกัน
(1) Coordinating conjunction ใช้เชื่อมประโยคอิสระ 2 ประโยคเข้าเป็นประโยค
เดียวกันเรียกว่า compound sentence
(2) Subordinating conjunction ใช้เชื่อมประโยคขยายหรืออนุประโยคเข้ากับประโยคหลักให้เป็นประโยคความซ้อน (complex sentence)
2. ใช้คำเชื่อมที่เป็นกริยาวิเศษณ์ (conjunctive adverb) วางไว้ในประโยคที่ต้องการเตือนผู้ฟังล่วงหน้า ว่าข้อความในประโยคนั้นจะสื่อความหมายไปในทำนองใด เช่น จะเป็นตัวอย่าง อธิบายซ้ำข้อความเดิม บอกลำดับขั้นก่อนหลัง ฯลฯ
- Somtam, in other words, spicy papaya salad is now available in many first class hotels.
ส้มตำ หรืออีกนัยหนึ่ง สลัดมะละกอรสเผ็ด มีขายแล้วตามโรงแรมชั้นหนึ่งหลายแห่ง (เชื่อมข้อความที่อธิบายซ้ำคำเดิมโดยใช้ conjunctive adverb)
- We must stop smoking now because the number of people who die of lung cancer is considerably increasing
เราต้องเลิกบุหรี่ ณ บัดนี้ เพราะจำนวนคนที่ตายด้วยโรคมะเร็งปอดกำลังเพิ่มขึ้นอย่างน่าใจหาย (บอกสาเหตุโดยใช้ Subordinating conjunction)
ต่อไปนี้เป็นตารางแสดงคำเชื่อมต่าง ๆ และการสื่อความหมาย ซึ่งผู้พูดควรนำไปใช้เชื่อมโยงข้อความที่พูด เพื่อให้ฟังเข้าใจง่ายขึ้น
ตารางเปรียบเทียบ conjunctive adverb และ conjunction
ความหมาย
Conjunctive
adverb
Conjunctions
Coordinating
Subordinating
บอกลำดับขั้นตอน
first, etc, at first, next, now, last, then, after

after, before, while, when
ลำดับความสำคัญ
above all, significantly, primarily, more, most important


ตัวอย่าง
for example,
for instance


สาเหตุ

for
Because, as since
ผล
therefore, hence, for this reason, as a result, consequence, consequently, thus
so

ขัดแย้ง


even though, although
ตรงกันข้าม
on the other hand.
instead, however,
nevertheless, still, in contrast, on the contrary
but, yet
Whereas, while
ความเหมือน
likewise, also, similarly, too, in the same way
both-and, neither-nor,
not only-but also
as, just as
อธิบายซ้ำ
in other words, that is


เน้น
indeed, in fact


เพิ่มความ
in addition, moreover, also, furthermore, besides
and, nor

เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
otherwise
or
if, unless
สรุป
all in all, in brief, in short, in summary, in conclusion


ตัวอย่างขั้นตอนคำปราศรัยที่มีการเชื่อมโยงคำพูด
ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างสำนวนที่ปรากฏในแต่ละขั้นตอน ของคำปราศรัยของผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เรื่องความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนในการพัฒนาการท่องเที่ยวของประเทศในปัจจุบัน เนื่องในการประชุมสัมมนาของผู้แทนจากประเทศต่าง ๆ ที่กรุงเทพฯ
1. ทักทายผู้ฟัง
(greeting) บทนำ
Mr. Chairman, Distingquished Delegates, Ladies and Gentlemen,
ท่านประธาน ท่านผู้แทน ท่านสุภาพบุรุษและท่านสุภาพสตรี
It is a great pleasure to be here and to welcome you all to amazing Thailand. Thank you for giving me the opportunity
to address you on the subject of public-private partnership in tourism development in Thailand today, Let me also express my thanks to the World Tourism Organization and UN ESCAP for their strong support in organizing this regional seminar.

ผมรู้สึกเป็นเกียรติที่เป็นผู้กล่าวต้อนรับท่านสู่ “มหัศจรรย์ไทยแลนด์” ขอขอบคุณที่ได้ให้โอกาสผลกล่าวปราศรัยในหัวข้อความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนในการพัฒนาการท่องเที่ยวของประเทศไทยในปัจจุบัน นอกจากนี้ผมต้องขอขอบคุณองค์การท่องเที่ยวโลก และเอสแคปแห่งสหประชาชาติ ที่ได้ช่วยสนับสนุนการจัดประชุมระดับภูมิภาคในครั้งนี้

2. บอกหัวข้อเรื่อง
(topic) หรือวัตถุประสงค์
(objective) The them of this seminar is public – private partner ship in
tourism development in Thailand today.

หัวข้อการสัมมนาครั้งนี้คือ ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาค
เอกชนในการพัฒนาการท่องเที่ยวของประเทศไทยในปัจจุบัน


3. บอกโครงเรื่องหรือหัวข้อย่อย
(Outlining) I will divide my talk into three parts namely Thai travel tourism,
public sectors’ participation, and private sectors’ participation.
ผมขอแบ่งหัวข้อการพูดเป็น 3 ตอนได้แก่ การท่องเที่ยวใน
ประเทศไทย การมีส่วนร่วมของภาครัฐ และการมีส่วนร่วมของ
ภาคเอกชน
4. เริ่มต้นหัวข้อแรก
(first section)
เนื้อเรื่อง
So, let’s start with Thai travel tourism.
ผมขอเริ่มพูดในหัวข้อแรก 8อ การท่องเที่ยวในประเทศไทย

5. ย่อเรื่องที่พูดใน
หัวข้อแรก
(summarizing)
To summarize there were six major reasons for Thailand’s
Tourism success in 2001-2002
ขอสรุปว่า มีสาเหตุอยู่ 6 ประการ ที่ทำให้การท่องเที่ยวของ
ประเทศไทยประสบความสำเร็จระหว่างปี ค.ศ. 2001-2002

6. เริ่มพูดด้วยหัวข้อที่สอง/ สาม (moving
To new section)

Now, let’s move on to public sectors’ participation….
ต่อไปนี้จะเป็นเรื่องการมีส่วนร่วมของภาครัฐ....

This leads to the third point private sectors’ participation.
มาถึงตอนที่สามคือ ความร่วมมือของภาคเอกชน

7. ย้อนกลับไปอ้างถึงเรื่องที่พูดไปแล้ว
(referring backwards)
As I mentioned earlier, development in our 9th five year
Development plan will take effect from October next year.
ดังที่ผมได้กล่าวมาแล้ว แผนพัฒนาห้าปีครั้งที่ 9 จะมีผลบังคับใช้
ตั้งแต่เดือนตุลาคมปีหน้าเป็นต้นไป

8. ให้ดูสื่อประกอบ referring to visuals)
If you look at this chart, you can see TATs Board of Directors.
ถ้าท่านดูแผนภาพนี้ ท่านจะเห็นผังการบริหารของคณะกรรมการ
บริหารการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

9. เท้าความถึงสิ่งที่ผู้ฟังทุกคนรู้/เข้าใจ
(referring to common
knowledge)
I’m sure you’re aware of the importance of partner-ship.
ผมมั่นใจว่าท่านทั้งหลายคงตระหนักถึงความสำคัญของการเป็น
หุ้นส่วนกัน


บทสรุป
10. ย่อเรื่องที่พูดมาแล้วทั้งหมด
(summarizing)
To summarize, I’ve told you about the success of Thailand’s
Tourism in 2001-2002
ขอทบทวนเรื่องที่ได้กล่าวมาแล้วอย่างย่อ ๆ คือผมได้พูดถึง
ความสำเร็จของการท่องเที่ยวของไทยในช่วงปี ค.ศ. 2001-2002

11. การสรุป
(concluding)
In conclusion, the Thai tourism industry now needs to rise
to the challenge of management….

สรุปคือ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยในปัจจุบันจำเป็นต้อง
12. ให้ผู้ฟังซักถาม
(dialing with questions)
มีการบริหารจัดการที่เฉียบคม....

Are there any questions?
มีปัญหาจะถามบ้างไหมครับ


13. ขอบคุณผู้สนับสนุนและผู้ฟัง (thanking)


Once more, allow me to thank the WTO for its initiative in
organizing this seminar and for allowing me to address you
today. Thank you for your time.
ขอขอบคุณองค์การท่องเที่ยวโลกที่ได้กระตุ้นให้มีการจัดสัมมนา
ครั้งนี้ และทำให้ผมได้มีโอกาสปราศรัยกับท่านทั้งหลาย ณ ที่นี้
ขอขอบคุณที่ท่านมาร่วมประชุม

14. อวยพรผู้เข้าร่วมสัมมนา (expressing wish)


I wish you all a successful seminar and a pleasant stay in
Thailand. Sawasedd khrap?
ผมขออวยพรให้การสัมมนาประสบผลสำเร็จ และขอให้ทุกท่านมี
ความสุขขณะอยู่ในประเทศไทย สวัสดีครับ

By กัญณภัทร นิธิศวราภากุล

2 comments:

Instant Speeches said...

Nice bunch of tips! Certainly it’s important to avoid lengthy and boring speeches. It’s not a good idea to go on and on as you don't want to turn off your guests.

Anonymous said...

ขอบคุณที่ให้ความไว้วางใจในการให้บริการออนไลน์สำหรับการช่วยเหลือเงินกู้ 200,000 ยูโรเพื่อเริ่มต้นครอบครัวของฉันภายใน 24 ชั่วโมงหากคุณสนใจที่จะกู้เงินด่วนในอัตราต่ำติดต่อ Trustloan Online Services ที่: {trustloan88 @ g m a l l. c o m}